วันที่ 27 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติเห็นชอบปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรและมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด – 19 ในจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด (พื้นที่สีแดงเข้ม)
“ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ได้พิจารณามาตรการในหลายประเด็น และครั้งนี้ไม่มีการปรับพื้นที่สี แต่มีการปรับมาตรการการควบคุมโรคที่เข้มงวด มีการอนุญาตให้เปิดกิจการ กิจกรรมเพิ่มเติม ตามความพร้อมและความจำเป็น เพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงกับปกติมากที่สุด รวมทั้งพิจารณารอบด้านทั้งเศรษฐกิจและสังคม” แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าว
สำหรับมาตรการที่ผ่อนคลายเพื่อป้องกันและควบคุมโควิด-19 ตามระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร มีดังนี้
– เดินทางข้ามจังหวัดได้ เฉพาะเหตุจำเป็น ระบบขนส่งสาธารณะจำกัดผู้โดยสารไม่เกิน 75% สวมแมสก์ตลอดเวลา ระยะไกลให้หยุดพักทุก 2-3 ชั่วโมง
– เปิดให้นั่งในร้านอาหาร พื้นที่อากาศถ่ายเทดีนั่งได้ 75% ส่วนร้านอาหารมีเครื่องปรับอากาศนั่งได้ 50%
– เปิดศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ได้ทุกแผนก แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
1. กลุ่มเปิดแบบไม่มีเงื่อนไข : ได้แก่ ร้านตัดผม (เฉพาะตัดผม) ร้านนวด (เฉพาะนวดเท้า) คลินิกเสริมความงาม (เปิดจำหน่ายสินค้าเท่านั้น)
2. กลุ่มยังไม่เปิดบริการ : สถานกวดวิชา สปา สวนสนุก สวนน้ำ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ห้องประชุมและจัดเลี้ยง
– เปิดกิจการบางประเภท ได้แก่ ร้านเสริมสวย ร้านนวด (เฉพาะนวดเท้า)
– การใช้อาคารของสถานศึกษาตามความเห็นชอบขอบผู้แทนกระทรวงฯ ตามเกณฑ์ที่สาธารณสุขกำหนด
– เปิดใช้สนามกีฬา สามารถใช้เล่น ซ้อม หรือแข่งขันได้แบบไม่มีผู้ชม
ทั้งนี้ ยังคงมาตรการเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น พร้อมการทำงานที่บ้านต่อไปอีกอย่างน้อย 14 วัน